กอบศักดิ์ชี้ รัสเซียกำลังเผชิญ “นิวเคลียร์เศรษฐกิจ”

“กอบศักดิ์” คาด “สหรัฐ-NATO” เตรียมตัดขาดห้ามซื้อขายทองคำ-รุกฆาตโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจรัสเซียมากขึ้น ชี้รัสเซียกำลังเผชิญ “นิวเคลียร์เศรษฐกิจ” ลูกใหญ่ หวั่นแดนหมีขาวตอบโต้รุนแรงส่งผลร้ายทั่วโลก

วันที่ 13 มีนาคม 2565 นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Dr.KOB” ระบุว่า “นิวเคลียร์เศรษฐกิจ” อาวุธใหม่ที่พัฒนาขึ้น ระหว่างการทำสงครามกับรัสเซีย
ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สิ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในสงครามเศรษฐกิจกับรัสเซีย คือ การนำ “ระบบการค้าและระบบเงินของฝั่งโลกตะวันตก” มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำสงครามเศรษฐกิจ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ในอดีต เวลาเกิดปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ใด ๆ ก็จะมีการนำนโยบาย Sanctions มาใช้ เพื่อลงโทษประเทศที่ก่อปัญหา

แต่สิ่งที่แตกต่างรอบนี้ ก็คือ ระดับความเข้มข้นของนโยบาย ทั้งจากจำนวนกลุ่มประเทศที่เข้าร่วม และความรุนแรง

“ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ รัสเซียได้กลายเป็นประเทศที่ถูก Sanction เยอะที่สุดของโลก ด้วยมาตรการกว่า 3,000 อย่าง !!!! จากประเทศหลัก ๆ มากกว่า 40 ประเทศ”

นายกอบศักดิ์ระบุว่า หลายมาตรการต้องบอกว่า เป็นมาตรการไม่ปกติ เช่น ยึดเงินสำรองระหว่างประเทศ สั่งไม่ให้ทำธุรกรรมการเงินด้วย ไม่ให้ระดมทุน ไม่ให้ใช้ระบบการชำระเงิน ยึดสินทรัพย์ ไม่ซื้อสินค้า เร่ง Exit ออกจากธุรกิจและการลงทุนต่าง ๆ รวมไปถึงห้ามใช้เทคโนโลยีทางการทหารและดิจิทัล ที่สหรัฐและโลกตะวันตกพัฒนา

ทั้งหมดนี้ เป็นการนำ “ระบบการค้าและระบบการเงินของโลกตะวันตก” มาเป็นเครื่องมือในการทำสงครามเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ เพราะตลาดการค้าของโลกตะวันตกมีขนาดประมาณ 70% ของเศรษฐกิจโลก และเป็นระบบหลักที่ควบคุมการไหลเวียนของการเงินโลกมากกว่า 90%

(1) ในเชิงการค้า ถ้ารัสเซียถูกตัดออกจากระบบดังกล่าว ก็จะเท่ากับว่า “ถูกปล่อยเกาะ” ให้รัสเซียต้องสู้ด้วยตัวเอง ผลิตสินค้า พัฒนาสินค้าต่าง ๆ โดยอาศัยรัสเซียและเพื่อนของรัสเซียเท่านั้น ไม่มีคนช่วยผลิต ไม่มีตลาดขนาดใหญ่มารองรับ

กลไกการแบ่งงานกันทำ กลไกการเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่เคยเป็นหัวใจหลักที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพให้กับระบบการผลิตของรัสเซีย จะถูกทำลายลงไปในพริบตา

“หากจะเปรียบเทียบง่าย ๆ ให้เห็นภาพ ถ้าเราเคยเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว เอารายได้ไปซื้อของอื่น ๆ มาใช้ มีความสุขในการใช้ชีวิต แต่วันหนึ่ง ทุกคนไม่ยอมมายุ่งกับเรา ต้องทำก๋วยเตี๋ยวกินเอง และผลิตทุกอย่างใช้เอง ตั้งแต่สบู่ ยาสีฟัน ขนม อาหารต่าง ๆ ประสิทธิภาพของการทำงานจะลดลงแค่ไหน และชีวิตจะลำบากขึ้นแค่ไหน”

(2) ในเชิงการเงิน การถูกขับให้ออกจากระบบการเงินโลก ไม่ให้ใช้ระบบ SWIFT ไม่ให้ชำระเงินผ่านระบบธนาคารของสหรัฐและพันธมิตร การไม่ให้ระดมเงิน รวมไปถึงการ Freeze สินทรัพย์ทุกอย่าง เป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจรัสเซียออกไป

ทั้งหมดเพื่อให้เกิด Financial System Meltdown ในรัสเซีย

ไม่น่าแปลกใจ ผลที่ตามมา ค่าเงินรัสเซียอ่อนลงไปครึ่ง จาก 70 เป็น 130 รูเบิล/ดอลลาร์ คนรัสเซียที่เคยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของตน เงินหายไปอย่างน้อย 70-80% (จนถึงวันนี้ยังไม่สามารถเปิดตลาดหลักทรัพย์ได้) ธนาคารพาณิชย์ถูกแห่ถอนเงิน บริษัทหลายแห่งกำลังจะมีปัญหา

นอกจากนี้ สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียที่ซื้อขายในตลาดต่างประเทศ (ETF ต่าง ๆ) ถูกระงับการซื้อขาย พันธบัตรรัสเซียถูก Downgrade จนเป็น Non-investment grade หรือ Junk Bonds และต่อไปคงไม่ผิดการชำระหนี้ได้

นายกอบศักดิ์ระบุอีกว่า ล่าสุด การไล่ล่าทางการเงิน กำลังจะไปถึงการประกาศห้ามไม่ให้ค้าขายทองคำกับรัสเซีย ที่รัสเซียได้สะสมเอาไว้มากกว่าแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงที่ผ่านมา

(3) สุดท้าย สหรัฐและ NATO มุ่งจะตัดรัสเซียออกจาก “ระบบนวัตกรรมโลก”

เรื่องนี้ แม้ดูว่าไม่น่ามีผลมากในระยะสั้น แต่ในระยะยาวเท่ากับว่า กีดกันให้รัสเซียต้องไปคิดค้นทุกอย่างเอง ไม่ให้ใช้เทคโนโลยีที่โลกตะวันตกร่วมกันพัฒนา

โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการทหาร การบิน การเดินเรือ และดิจิทัล

ในประเด็นนี้ การพัฒนานวัตกรรมมีต้นทุนสูงมาก การช่วยกันพัฒนาคนละส่วน จะช่วยให้ทุกคนก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว

การที่รัสเซียต้องอยู่ในห้อง Lab คนเดียว คิดอยู่คนเดียวจะทำให้ การคิดค้นสิ่งต่าง ๆ ของรัสเซียช้าลงมาก และจะส่งผลต่อระดับอานุภาพของยุทโธปกรณ์ที่รัสเซียคิดค้น และต่อการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจของรัสเซียด้วย

ทั้งหมดนี้ เรียกได้ว่า จะรุกฆาต เอากันให้จนมุม หลายคนถามว่า ทำไปทำไม เป้าหมายจริง ๆ คืออะไร คำตอบ “บั่นทอนเศรษฐกิจของรัสเซีย”

ที่ทำเช่นนี้ก็เพราะ “ความเข็มแข็งของประเทศในเชิงเศรษฐกิจ คือพิ้นฐานสำคัญของความเข้มแข็งเชิงการทหาร”

ถ้าเศรษฐกิจของรัสเซียอ่อนแอ สุดท้ายรัสเซียก็จะไม่มีเงินมาพัฒนากองทัพ ไม่สามารถแข่งขันทันกับสหรัฐและพันธมิตร NATO ได้

คิดว่า สหรัฐและ NATO คงมีภาพ GDP ของรัสเซียหลังการผนวกไครเมีย อยู่ในใจ

ก่อนเหตุการณ์ดังกล่าว รัสเซียมีขนาดเศรษฐกิจประมาณ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ แต่หลังจากนั้น 5 ปีให้หลัง ขนาดเศรษฐกิจรัสเซียลดลงมาเหลือเพียง 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลงมา 1/4

อัตราการเจิญเติบโตที่เคยสูงถึง 7-8% ลดลงมาเหลือแค่ 2-3% ผิดจากปกติของประเทศเกิดใหม่

ทั้งหมดทำให้รัสเซียที่เป็นมหาอำนาจทางการทหาร กลายเป็นประเทศเล็ก ๆ เชิงเศรษฐกิจ ที่มีขนาดเพียง 1/10 ของสหรัฐ หรือเท่ากับรัฐ Texas เท่านั้น

ล่าสุดจากค่าเงินที่อ่อนลงครึ่งในสองสัปดาห์ ทำให้ขนาดของรัสเซียในรูปดอลลาร์ได้ลดลงเหลือเพียงเท่ากับรัฐ Ohio หรือรัฐ Georgia เท่านั้น

อย่างที่บอกไปข้างต้น เมื่อเงินน้อย โอกาสการพัฒนาแสนยานุภาพก็จะจำกัด

นายกอบศักดิ์ระบุว่า แล้วนัยคืออะไร หากเป้าหมายของสหรัฐและ NATO คือ “การบั่นทอนรัสเซียและเศรษฐกิจรัสเซีย”

ทั้งหมดหมายความว่า แม้สงครามรัสเซีย-ยูเครนจบลง การ Sanctions จะยังคงอยู่อีกนาน เพื่อให้สงครามรัสเซีย-ยูเครนกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่จะปรับ Balance of Power ของโลก ใน 10-20 ปีให้หลังต่อไป

สงครามเศรษฐกิจกับรัสเซียจะมีความยาวนานกว่าที่ทุกคนคิด ผลกระทบต่อน้ำมัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ ก็จะยาวนานกว่าที่คิดเช่นกัน

“ดังนั้น การที่เราจะเตรียมรับผลพวงจากความขัดแย้งของพญาหมีขาวกับพญาอินทรีและพวก ก็คงต้องเตรียมการยาวเช่นกัน หมายความว่า ทุกคนก็จะต้องรับผลจากสงครามครั้งนี้ กันพอสมควร ที่เห็นชัด ๆ ก็ราคาน้ำมัน ราคาอาหาร เงินเฟ้อ ก่อนที่จะลุกลามไปอย่างอื่น ตามที่คนโบราณพูด “ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกแหลกลาญ”

ที่น่ากังวลใจก็คือ ช่วงที่ผ่านมา สหรัฐและ NATO ต่างไม่ลดละในการออกมาตรการ ยิ่งเห็นความย่อยยับของเศรษฐกิจรัสเซีย ก็เร่งออกมาตรการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เร่งปิดช่องโหว่ต่าง ๆ

พยายามช่วยกันพัฒนายกระดับการใช้ “ระบบการค้าและระบบเงินของฝั่งโลกตะวันตก” ให้เป็น “นิวเคลียร์เศรษฐกิจ” ที่รุนแรงมากขึ้น

แต่ถ้าต้อนจนเขา “จนมุมเกินไป” สิ่งที่ย้อนสะท้อนกลับมา ก็อาจจะเกินคาดได้เช่นกัน เพราะรัสเซียเองก็ยังมีหมัดเด็ด ๆ อีกหลายหมัด ที่ออกมาตอบโต้ได้ โดยถือว่า “ประเทศที่ Sanctions รัสเซีย” มีค่าเท่ากับ “ประกาศสงครามกับรัสเซีย”

“เมื่อตอบโต้กันไปมา ก็อาจจะลุกลาม ใหญ่โต เสียหายทุกฝ่าย ได้แต่หวังว่า จะไม่มีอะไรที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ” นายกอบศักดิ์ระบุ

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance/

“กอบศักดิ์” คาด “สหรัฐ-NATO” เตรียมตัดขาดห้ามซื้อขายทองคำ-รุกฆาตโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจรัสเซียมากขึ้น ชี้รัสเซียกำลังเผชิญ “นิวเคลียร์เศรษฐกิจ” ลูกใหญ่ หวั่นแดนหมีขาวตอบโต้รุนแรงส่งผลร้ายทั่วโลก วันที่ 13 มีนาคม 2565 นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Dr.KOB” ระบุว่า “นิวเคลียร์เศรษฐกิจ” อาวุธใหม่ที่พัฒนาขึ้น ระหว่างการทำสงครามกับรัสเซีย ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สิ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในสงครามเศรษฐกิจกับรัสเซีย คือ การนำ “ระบบการค้าและระบบเงินของฝั่งโลกตะวันตก” มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำสงครามเศรษฐกิจ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในอดีต เวลาเกิดปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ใด ๆ ก็จะมีการนำนโยบาย Sanctions มาใช้ เพื่อลงโทษประเทศที่ก่อปัญหา แต่สิ่งที่แตกต่างรอบนี้ ก็คือ ระดับความเข้มข้นของนโยบาย ทั้งจากจำนวนกลุ่มประเทศที่เข้าร่วม และความรุนแรง “ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ รัสเซียได้กลายเป็นประเทศที่ถูก Sanction เยอะที่สุดของโลก ด้วยมาตรการกว่า 3,000 อย่าง !!!! จากประเทศหลัก ๆ มากกว่า…