ธปท.เปิดถาม-ตอบกรณี S&P ปรับลด Rating ธนาคารพาณิชย์ไทย

ธปท. เปิดคำถาม-คำตอบ 4 ข้อ หลัง S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 4 ธนาคารพาณิชย์ไทย เผยระยะสั้นมีผลต่อราคาหุ้นปรับลดลง-ต้นทุนระดมทุนเพิ่มขึ้นแต่ไม่รุนแรง เหตุแบงก์ไทยพึ่งพาเงินฝากเป็นหลัก ยันไม่กระทบต่อผู้ฝากเงิน พร้อมติดตาม-กำกับดูแล ธพ.ทุกแห่ง

วันที่ 22 มีนาคม 2565 จากกรณีบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ไทย (ธพ.) 4 แห่ง และคงความน่าเชื่อถือไว้ 2 แห่งด้วย มุมมองว่าหนี้ครัวเรือนของไทยเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งกฎเกณฑ์ของทางการเอื้อให้การช่วยเหลือลูกหนี้ของไทยทำได้มากกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ทำให้มีลูกหนี้ภายใต้มาตรการช่วยเหลือจำนวนมาก ธปท.จึงได้ชี้แจงผ่านคำถาม-คำตอบ ดังนี้

1.การที่ S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ไทย 4 แห่งในครั้งนี้ จะส่งผลอย่างไรต่อธนาคารพาณิชย์
การปรับลด rating อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งอาจทำให้ราคาหุ้นของ ธพ.ปรับลดลงในระยะสั้น และต้นทุนการระดมทุนปรับเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป แต่คาดว่าผลกระทบจะไม่รุนแรงนัก เพราะ ธพ.ไทยพึ่งพาการ ระดมทุนผ่านเงินฝากเป็นสำคัญ ขณะที่การระดมทุนจากตลาดทุนหรือต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนไม่มากนัก รวมทั้ง ธพ.ได้ทยอยระดมทุนไว้แล้วในช่วงปีที่ผ่านมา ประกอบกับ ธพ.ยังมีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และเงินกองทุนที่อยู่ในระดับสูง

2.การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อผู้ฝากเงิน การปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการ ช่วยเหลือลูกหนี้ของ ธพ.ต่อไปหรือไม่
การปรับลด rating ในครั้งนี้จะไม่กระทบต่อผู้ฝากเงิน และการทำหน้าที่เป็นตัวกลางทางการเงินของ ธพ.เพราะ ธพ.ยังมีฐานะแข็งแกร่ง จึงสามารถระดมทุนและปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคธุรกิจและครัวเรือนเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการช่วยเหลือลูกหนี้ให้กลับมาฟื้นตัวจากวิกฤตได้ ซึ่งจะทำให้คุณภาพสินเชื่อ ของ ธพ.ปรับดีขึ้นเช่นกัน

3.ธปท.จะดำเนินการอย่างไรต่อไป กับ ธพ. ที่ถูกปรับลดอันดับเครดิตรอบนี้
ธปท. ได้ติดตามและกำกับดูแล ธพ. มาโดยตลอด (ongoing supervision) และได้มีการดูแลให้ ธพ. ทุกแห่งใน ระบบให้มีเงินกองทุน และสำรองอยู่ในระดับสูง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคตอยู่แล้ว

4.ความเสี่ยงด้านเครดิตของ ธพ.จากแนวโน้มการฟื้นตัวของผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ และสถานการณ์หนี้ครัวเรือนเป็นอย่างไร
คาดว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของ ธพ.จะทยอยลดลงตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ควบคู่กับการดำเนินมาตรการของภาครัฐที่ช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพในระยะสั้น รวมถึงมาตรการทางการเงินการคลังที่เน้นการปรับตัวและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตลอดจนการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง (structural issues) ทั้งการยกระดับศักยภาพของ ภาคธุรกิจ และโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance

ธปท. เปิดคำถาม-คำตอบ 4 ข้อ หลัง S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 4 ธนาคารพาณิชย์ไทย เผยระยะสั้นมีผลต่อราคาหุ้นปรับลดลง-ต้นทุนระดมทุนเพิ่มขึ้นแต่ไม่รุนแรง เหตุแบงก์ไทยพึ่งพาเงินฝากเป็นหลัก ยันไม่กระทบต่อผู้ฝากเงิน พร้อมติดตาม-กำกับดูแล ธพ.ทุกแห่ง วันที่ 22 มีนาคม 2565 จากกรณีบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ไทย (ธพ.) 4 แห่ง และคงความน่าเชื่อถือไว้ 2 แห่งด้วย มุมมองว่าหนี้ครัวเรือนของไทยเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งกฎเกณฑ์ของทางการเอื้อให้การช่วยเหลือลูกหนี้ของไทยทำได้มากกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ทำให้มีลูกหนี้ภายใต้มาตรการช่วยเหลือจำนวนมาก ธปท.จึงได้ชี้แจงผ่านคำถาม-คำตอบ ดังนี้ 1.การที่ S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ไทย 4 แห่งในครั้งนี้ จะส่งผลอย่างไรต่อธนาคารพาณิชย์ การปรับลด rating อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งอาจทำให้ราคาหุ้นของ ธพ.ปรับลดลงในระยะสั้น และต้นทุนการระดมทุนปรับเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป แต่คาดว่าผลกระทบจะไม่รุนแรงนัก เพราะ ธพ.ไทยพึ่งพาการ ระดมทุนผ่านเงินฝากเป็นสำคัญ ขณะที่การระดมทุนจากตลาดทุนหรือต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนไม่มากนัก รวมทั้ง ธพ.ได้ทยอยระดมทุนไว้แล้วในช่วงปีที่ผ่านมา ประกอบกับ ธพ.ยังมีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และเงินกองทุนที่อยู่ในระดับสูง 2.การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้…